
ดีไซน์ภายนอก


ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ BI-LED
พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED

ไฟท้าย และไฟเบรกแบบ LED
พร้อม LED Light Guide

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แบบทูโทน

ไฟตัดหมอกหน้า

สปอยเลอร์หลังดีไซน์แกร่ง

กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมระบบไล่ฝ้า
ดีไซน์ภายใน


พื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบาย
การออกแบบห้องโดยสารโทนสีเข้ม ดุดัน อุปกรณ์ทุกชิ้นออกแบบให้สะดวกต่อการใช้งาน เบาะที่นั่งโอบกระชับรับกับทุกสรีระ พร้อมระบบปรับตำแหน่งด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับ ทันสมัย ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อความสมบูรณ์แบบในการขับขี่อย่างแท้จริง

จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี
พร้อม 3D ANIMATION

พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง
สามารถยืดขาผ่อนคลายได้ระหว่างทาง เบาะนั่งถูกออกแบบตามสรีระเพื่อความลงตัวในการขับขี่

เบาะโดยสารด้านคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง

ที่พักแขนห้องโดยสารตอนหลัง
พร้อมที่วางแก้วน้ำ
คุณสมบัติ
เครื่องยนต์ และ สมรรถนะ

แชสซีส์เหล็กกล้า 2 ชั้น ไร้รอยต่อตลอดความยาว และระบบกันสะเทือน ให้คุณมั่นใจในทุกสภาพพื้นผิว ด้วยการออกแบบและพัฒนาทางวิศวกรรมอย่างดีเยี่ยม

เครื่องยนต์ไมเวค คลีน ดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า
MIVEC (Mitsubishi Innovation Valve Timing Electronic Control) อัจฉริยภาพแห่งเครื่องยนต์ลิขสิทธิ์เฉพาะจากมิตซูบิชิ กับระบบควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีแปรผัน ทำงานสอดคล้องกับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ควบคุมการทำงานด้วยสมองกลอัจฉริยะ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงดีขึ้นในรอบต่ำและได้แรงม้ามากขึ้นในรอบสูงอัตราเร่งดี ความเร็วสูงสุด เผาไหม้หมดจด ลดมลพิษในอากาศ

VG Turbo
(Variable Geometry Turbo)
เพิ่มประสิทธิภาพแรงอัดอากาศด้านไอดีให้สัมพันธ์กับเครื่องยนต์ ด้วยเทอร์โบแปรผันที่สามารถควบคุมปริมาณไอเสีย เพื่อช่วยสร้างแรงอัดอากาศด้านไอดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงทั้งในรอบต่ำ รอบปานกลาง และรอบสูงอย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกับอินเตอร์คลูเลอร์ขนาดใหญ่ ช่วยลดความร้อนไอดีได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไอดีมีความหนาแน่นมากขึ้น เพิ่มความแรงให้กับเครื่องยนต์ ตอบสนองอัตราเร่งได้ทันใจ

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม SPORT MODE
ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง นุ่มนวล มาพร้อมสปอร์ตโหมดให้คุณควบคุมได้อย่างใจ

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
(Super Select 4WD II) เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน โดยให้คุณสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนนลื่น และเมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบ Off- Road คุณยังสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc สำหรับพื้นที่ลาดชัน หรือลุยโคลนได้ตามต้องการ

Off – Road Mode
ปรับรูปแบบการส่งกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว และเส้นทางในการขับขี่มากยิ่งขึ้น เช่น พื้นกรวด พื้นโคลน พื้นทราย (ใช้งานควบคู่กับระบบ 4HLc และ 4LLc) และพื้นหิน (ใช้งานควบคู่กับระบบ 4LLc)

ระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง
ควบคุมการทำงาน ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลัง ทั้งซ้ายและขวาหมุนเท่ากันตลอดเวลา ทำงานร่วมกับระบบ Center Differential Lock ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางที่วิบากไปได้อย่างง่ายดาย

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า
แบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้นคอยส์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ เพื่อให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น
– ด้านหลัง
แบบแหนบแผ่นซ้อน ติดตั้งเหนือเสื้อเพลา พร้อมโช้คอัพไขว้ขนาดใหญ่ ออกแบบจุดยึด และปรับตั้งแหนบใหม่ ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและยึดเกาะถนนดีขึ้น
ระบบความปลอดภัย

ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน
(Blind Spot Warning with Lane Change Assist – BSW with LCA)
ระบบจะตรวจจับรถคันอื่นที่วิ่งอยู่ในเลนถัดไปทางด้านหลัง ในระยะประมาณ 70 ม. และส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และในขณะเดียวกันหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงเตือน พร้อมสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร ทั้งนี้ การทำงานของระบบขึ้นอยู่กับความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างรถกับรถในเลนถัดไป

ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง
(Forward Collision Mitigation System – FCM)
พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบจะทำงานโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน

ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง และรวดเร็ว
(Ultrasonic misacceleration Mitigation System – UMS)
ระบบทำงานโดยใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจจับวัตถุด้านหน้า หรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง “D” หรือ “R” หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรง และรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติ และทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน

ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด
(Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
ในขณะที่รถกำลังถอยหลัง หากเซนเซอร์ด้านหลังตรวจพบรถคันอื่นเข้ามาภายในรัศมีการตรวจจับ ระบบจะส่งเสียงเตือนและสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน พร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงผล

กล้องมองภาพรอบคัน
(Multi Around Monitor)
ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
หมายเหตุ: ระยะการจับภาพของกล้องมองภาพรอบคันเป็นเพียงภาพจำลองเพื่อความเข้าใจเท่านั้น

ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
(Automatic High-Beam – AHB)
เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสำหรับการขับขี่ในยามค่ำคืน ระบบจะตรวจจับแสงไฟจากด้านหน้ารถ เพื่อปรับการทำงานของไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติ

ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
(Auto Lighting ON – OFF)
ระบบจะทำงานทันที หากตรวจพบว่าแสงสว่างจากภายนอกไม่เพียงพอ

ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
เสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย ช่วยลดความรุนแรงที่เกิดจากการชนทั้งด้านหน้า และด้านข้าง ทำงานร่วมกันกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ

เข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ แบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง

ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก
(Anti-Lock Braking System – ABS)
จะทำงานทันทีเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน ช่วยให้คุณหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างทันท่วงที

ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Brake Force Distribution – EBD)
ทำงานประสานกับระบบเบรก ABS เพื่อให้เกิดการกระจายแรงเบรก อย่างเหมาะสมทั้ง 4 ล้อ ช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง

ระบบเสริมแรงเบรก
(Brake Assist -BA)
จะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน ระบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
(Hill Start Assist System – HSA)
ช่วยป้องกันรถไหล เมื่อต้องออกตัวบนทางลาดชัน

ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
(Hill Descent Control – HDC)
เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
(Active Stability Control – ASC)
ระบบจะช่วยควบคุมการทรงตัวของรถ ในสภาวะที่รถเสียสมดุล เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง เช่น กรณีหลุดโค้งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ถนนลื่น หรือหักหลบกะทันหัน

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
(Active Traction Control – TCL)
ระบบจะช่วยควบคุมการหมุนของล้ออย่างสมดุลในสภาวะถนนลื่น ขรุขระ หรือทางลาดชัน เพื่อไม่ให้รถสูญเสียการยึดเกาะถนน

โครงสร้างนิรภัยเหล็กกล้า (RISE Body)
ใช้แรงดึงสูง (High tensile steel) เพื่อความปลอดภัยขั้นสูง และน้ำหนักเบา ช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสาร ทำให้ห้องโดยสารเสียหายน้อยที่สุดจากการชนทั้งจากด้านหน้าและหลัง

คานเหล็กกันกระแทกด้านข้างประตู
เสริมความแข็งแรง เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่เข้าสู่ห้องโดยสาร เมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง

ระบบเบรก
ดิสก์เบรกล้อหน้า พร้อมช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่
ดรัมเบรกล้อหลังขนาดใหญ่

รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.9 ม.
ช่วยให้คุณเลี้ยวกลับรถได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และคล่องตัวยิ่งกว่า maneuverability
สิ่งอำนวยความสะดวก

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control)
ลดความเมื่อยล้าเมื่อขับขี่ทางไกล
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย (Paddle Shift)
เพื่อสมรรถนะ และการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา

ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
พร้อมแผงควบคุม และช่องระบายความเย็น

ช่องจ่ายไฟกระแสตรง 12 โวลต์
พร้อมช่องเสียบ USB บริเวณคอนโซลหน้า

ช่องเสียบ USB 2 ตำแหน่งบริเวณคอนโซลกลาง

เครื่องเล่นวิทยุ DVD MP3 หน้าจอระบบสัมผัส
พร้อมระบบนำทางในรถยนต์ และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth แบบ A2DP

กระจกมองหลัง ปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ปลอดภัยยิ่งขึ้นแม้ในเวลากลางคืน